• Home
  • /
  • บทความ
  • /
  • เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 17

เล่าเรื่องผี “น้าแย้ม” ตอนที่ 17

ตากับคนที่เหลือก็เดินออกมาส่ง ตาบอกกับลุงพุฒิว่าฝากลูกฉันด้วยนะ ลุงพุฒิบอกว่าจะช่วยดูเต็มที่ แต่ก็ไม่รู้ว่า lynblue89 เป็นมากแค่ไหน ต้องให้คุณหมอในโรงพยาบาลช่วยดูอีกทีเสร็จแล้วก็เดินเข้าไปสมทบกับคนที่จะเดินทางไปด้วย ลุงพุฒิลูบหัวแม่ ถามว่า จะไปด้วยเหรอ?แม่ตอบว่า จะไปอยู่เป็นเพื่อนแม่ (ยาย) กับน้อง ลุงพุฒิยิ้ม แล้วบอกกับคนในกลุ่มว่า“ขอคนจิตแข็งๆหน่อยเป็นคนขับนะ” ทุกคนก็มีเหว๋อเล็กน้อย แน่นอนงานนี้โชเฟอร์คือลุงยักษ์นั่นเอง

รถกระบะสมัยก่อนไม่หรูหราโอ่อ่าเหมือนทุกวันนี้ ไม่มีแคป ไม่มีตอน คนที่นั่งด้านหน้า 4 คน มีลุงยักษ์, ยาย, น้าแย้มและลุงพุฒิต้องเบียดอัดกันเป็นปลากระป๋อง ที่เหลือก็ขึ้นกระบะหลังประมาณเกือบ 5 โมง ลุงยักษ์ก็ขับร lynblue89 ออกมาจากไร่ โดยมีตากับน้าเย็น ยืนมองรถหายไปกับฝุ่น (ส่วนลุงยศ เฝ้ากอไผ่ที่เผาอยู่)ทางไปโรงพยาบาลในตัวจังหวัดค่อนข้างจะไกลมาก ปกติตอนกลางวันใช้เวลาราว 2-3 ชม. กว่าจะไปถึงแต่ช่วงเย็นคงนานกว่าอีกหน่อยประกอบกับถนนในชนบทที่ห่างไกลความเจริญ 80-90% เป็นถนนลูกรังแดง ถนนดิน  เท่านั้นไม่พอยังมีหลุมมีหล่มตลอดทางและสาเหตุบางข้อที่ทำให้เดินทางได้ไม่เร็วเท่าที่ควร หนึ่งคือช่วงที่รถกระแทกกับหลุม น้าแย้มซึ่งหลับอยู่ จะร้องโอ้ยขึ้นมา

ยายก็จะบอกให้ลุงยักษ์ขับดีๆหน่อย อีกข้อคือ กระจกรถซึ่งร้าวอยู่ลุงยักษ์มองทางไม่ถนัด แวนซ์มากไม่ได้ (><)

จึงสรุปกันว่าจะเข้าไปเปลี่ยนรถที่บ้านญาติ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากไร่ของตาก่อน

พอเข้าไปถึงลุงยักษ์กับลุงยอดก็เข้าไปคุยกับญาติขอยืมรถ จะพาแย้มไปโรงพยาบาล ญาติก็ถามว่ารถไปชนอะไรมา

ลุงยักษ์ก็ว่า เดี๋ยวค่อยเล่า ตอนนี้รีบอยู่ แต่ญาติก็ถามอีกว่า

“รู้จักป้า xx ที่อยู่แถวๆบ้านยักษ์มั้ย? ที่อยู่คนเดียวน่ะ แกตายแล้วนะ เมื่อวาน  มีคนมาบอก เนี่ยว่าจะไปงานศพแกหน่อย?

ลุงยักษ์หันขวับดูท่าทางไม่ค่อยพอใจ

“อีแก่โรคจิตนั่นน่ะนะ? ตาย ha ไปก็ดีแล้ว” คือแม่บอกว่าลุงยักษ์เคืองมาก ที่ปล่อยคนแปลกหน้าเข้าบ้าน

ทั้งที่หมอยาก็บอกแล้วว่าห้ามคนแปลกหน้าเข้าบ้าน ถ้าวันนั้นวันที่หญิงแก่คนนี้มา แล้วลุงยักษ์อยู่ด้วย

หญิงแก่คนนั้นคงโดนตบหัวทิ่มกลับบ้านแทบไม่ทัน คงไม่ได้ยืนแสยะยิ้มแบบนั้น แล้วเรื่องอาจจะไม่แย่แบบนี้

ทั้งหมดก็ย้ายมาขึ้นรถอีกคัน

ตอนออกมาจากบ้านญาติ ฟ้าก็เริ่มสีม่วงๆแดงๆ แล้ว ลุงพุฒิก็ถอนหายใจเบาๆ บอกขับระวังๆด้วยนะ ดูทางให้ดี

ลุงยักษ์ก็ขับ ไม่ช้าไม่เร็ว หันซ้าย หันขวาตลอด และชำเลืองดูกระจกหลังเป็นระยะ ทางที่รถวิ่งผ่านมาแทบจะมองไม่เห็นอะไร

ไม่ใช่เพราะมืด แต่เพราะฝุ่นสีแดงจากถนนลูกรังลอยปิดถนนเต็มไปหมด

คนที่นั่งกระบะหลัง ถึงไม่โดนฝุ่นเต็มๆ แต่ก็ต้องหาผ้ามาปิดหน้าปิดตาเลย

ขับออกมาจากบ้านญาติได้สักพัก ฟ้าก็เริ่มมืด ฝุ่นสีแดงจากถนนลูกรัง มองเห็นเป็นสีขาวฟุ้งๆไปแทน

ลุงยักษ์ขับไปตามทาง ด้านหน้ารถ แม่เห็นลุงยักษ์พูดกับลุงพุฒิบ้างเป็นบางครั้ง  ยายก็ลูบหัวน้าแย้มที่หลับอยู่

ส่วนกระบะหลังลุงยอดก็คุยกับหมอยาเบาๆว่า ปกติไม่ค่อยเชื่อเรื่องแบบนี้ แต่คืนที่เจอเงาคนใส่เสื้อดำตอนกลางคืนวันนั้น หลอนมาก

ไม่คิดว่าจะมีจริง ก็ไม่รู้ว่า ไปแล้วเจอคนโดนยิงนอนอยู่ กับไม่เจออะไรเลย แบบไหนจะน่ากลัวว่ากัน

หมอยาก็บอกว่า คงถึงคราวซวยจริงๆ เจอทั้งหญิงแก่คนนั้น กับอีกคนพร้อมกัน หมอยานิ่งไปครู่แล้วบอกว่า

“หรือจะเป็นคนเดียวกัน?”

แม่ก็บอกหมอยาว่าผู้หญิงชุดดำคืนนั้นต้องเป็นคนเดียวกับที่เจอวันนั้นแน่ๆ แล้วแม่ก็เล่าให้หมอยาฟังอีกคนว่าไปเจออะไรมา

หมอยาก็บอกว่าคงไม่ใช่หรอกมั้ง วันนั้นที่เจอเป็นชาวบ้านแถวนั้นรึเปล่า เห็นมีคนไปแก้บนใต้ต้นไม้นั้นเยอะนะ

ตอนนั้นแม่ก็ไม่คิดอะไร แต่ตอนหลังคงพอรู้ว่า ผู้ใหญ่เค้าก็ไม่อยากพูดให้แม่กลัว

รอบข้างก็มืดหมดแล้ว ไฟจากบ้านคน ก็นานมากกว่าจะเห็นลิบๆสักดวง

แม่เกาะขอบกระบะมองผ่านห้องคนขับไปทางกระจกหน้า ระหว่างนั้นก็สะดุ้ง เพราะไฟหน้ารถส่องไปเจอเงาๆนึง ยืนอยู่ข้างทาง

แม่ก็เงียบคิดว่าเป็นคงเป็นชาวบ้านแถวนั้นเพิ่งกลับจากไร่ แต่พอรถแล่นไปได้อีกครู่เดียว

แม่ก็เห็นมีคนยืนอยู่ข้างทางอีกตรงมุมเดิม แม่เข้าไปจับเข่าลุงยอด ลุงยอดบอกให้ไปนั่งที่เดิม ฝุ่นมันเยอะ แต่แม่ดูตื่นๆบอกว่า

“เมื่อกี้ เห็นคนยืนอยู่ข้างทาง พี่เห็นมั้ย?” ลุงยอดก็แหล่ไปมองหมอยาแว่บนึง แล้วบอกว่า ตาฝาดมั้ง กลัวผีขึ้นสมองแล้ว

แต่แม่บอกว่า “เห็น 2 ครั้งแล้วนะ”

หมอยาบอกว่า ไม่มีอะไร แล้วบอกแม่ให้นั่งหลับไปเลย อีกนานกว่าจะเข้าตัวจังหวัด

แม่ก็ไม่กล้ามองไปทางหน้ารถ หันมานั่งจ้องหน้าลุงยอดกับหมอยาแทน แล้วแม่ก็เห็นว่าลุงยอดก็ทำตาโต รีบก้มหน้า

แล้วลุงยอดก็กระซิบไปทางหมอยาว่า

“เออ……เห็นจริงๆด้วยว่ะลุง” หมอยาหันซ้าย หันขวาแล้วทำเสียง จุ๊ๆ

“ อย่าไปทัก เห็นอะไรแปลกๆ อย่าทัก  ไม่ต้องไปสนใจ ร้องเพลงอะไรไปก็ได้”

ลุงยอดกระซิบถามว่า แล้วไอ้คนขับไม่เห็นเหรอ? หมอยาบอกว่า

“คนขับมันใจนักเลง ไม่ค่อยกลัวอะไร ประมาณว่าจิตมันแข็ง ถ้าของไม่แรงมาก มันก็ไม่เห็นอะไรหรอก

ก็อย่างที่คนไม่เคยเห็น มันก็ไม่เคยพบเคยเจอสักที ส่วนไอ้พวกที่เห็น ก็เจออยู่นั่นล่ะ จริงๆพวกเอ็งก็ไม่ได้ขวัญอ่อนนะ

แต่พอมาเจอเรื่องแบบนี้ นั่นล่ะ จิตใจก็เลยไม่ค่อยมั่นคง เห็นอะไรก็หลอนหูหลอนตาไปหมด หมอยาพูดจบ แม่ถามคำเดียว

“แล้วลุงเห็นมั้ย?” หมอยานิ่งๆ ไม่ตอบอะไร

กลับสู่หน้าหลัก

Leave a Reply